4 หูฟังเกมมิ่ง In-Ear สุดคุ้มปี 2020

ตลอดทั้งปีที่ผ่านมามีหูฟังเกมมิ่งเปิดตัวออกมาหลายรุ่นหลายแบบ โดยที่นิยมกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นหูฟังแบบครอบหูหรือ Over-ear แต่อาจมีอีกหลายคนที่ไม่ชอบความใหญ่ของมันที่ทั้งหนักและยังพกพาไม่สะดวก ในวันนี้เองเราจึงจะมาแนะนำหูฟังเกมมิ่งแบบ In-ear ให้ทุกท่านได้เลือกใช้งานกัน หูฟังสอดหูหรือหูฟังอินเอียร์เป็นหูฟังมีขนาดที่เล็กน้ำหนักเบาทำให้พกพาได้ง่าย กันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี เป็นหูฟังที่คนส่วนใหญ่ใช้งานกัน โดยพื้นฐานหูฟังอินเอียร์ถูกดัดแปลงมาจากหูฟัง Earbud เพื่อเพิ่มความสามารถในการกันเสียงรบกวนและส่งผ่านเสียงเข้าไปยังรูหูโดยตรง ผู้ใช้จะได้รับเนื้อเสียงที่มีความสด เก็บรายละเอียดดีและได้รับเสียงเบสแบบแน่นๆ ด้วยไดร์เวอร์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่การจะเลือกซื้อหูฟัง In-ear บ้างที่ก็จำเป็นต้องหาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อเกมเมอร์ที่อยากลองหูฟังเกมมิ่งอินเอียร์ เราจึงคัดหูฟังตัวที่เสียงดีเหมาะกับการเล่นเกมราคาไม่สูงนักมาให้เลือกแล้วถึง 4 ตัวรับรองว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งที่คุ้มค่าคุ้มราคาของปี 2020 แน่นอน

1.หูฟัง Cooler Master MH710

เริ่มกันที่ตัวแรกอย่าง Cooler Master MH710 ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นย่านเสียงกลางเป็นหลักมีความชัดเจนของทิศทางเสียง เหมาะกับเกมแนว FPS ใช้ไดร์เวอร์แบบ Neodymium ขนาด 10 มิลลิเมตร มีกำลังขับสูงให้ระดับความดังและความชัดเจนของเสียงเพิ่มขึ้น เสริมด้วยเทคโนโลยี FocusFX 2.0 ที่ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับทุกการใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นขณะเล่นเกมที่ต้องการความชัดของเสียงเดิน เสียงยิงปืน หรือความแม่นยำของทิศทางเสียงก็ปรับได้ ตัวหูฟังมีขนาดเล็กพกพาง่าย ดีไซน์เรียบหรู น้ำหนักเบา ให้คุณภาพเสียงเทียบเคียงกับ Headphone และมีราคาเพียง 990 บาททำให้ Cooler Master MH710 เป็นหูฟังเกมมิ่งสุดคุ้มที่ไม่ควรมองข้าม

2.หูฟัง Hyper-X Cloud Earbuds

มาต่อกันกับหูฟังเกมมิ่งสุดฮิตประจำปี 2020 ที่มักเป็นตัวเลือกแรกของใครหลายคน Hyper-X Cloud Earbuds ถูกออกแบบมาสำหรับเล่นเกมบนอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะ ทั้งสมาร์ทโฟน, Nintendo Switch และ Playstation ดีไซน์ทันสมัยสีดำแดง จุกหูฟังออกแบบมาเป็นพิเศษทำให้สวมใส่ได้นานโดยที่ไม่เจ็บหู แจ็คทรงตัว L พร้อมสายแบบแบน ป้องกันการพันกันของสาย ใช้ไดร์เวอร์ 14 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม ให้เสียงที่ดังฟังสนุกกับลูกเบสที่เหนือกว่า และช่วงเสียงต่ำ กลางและสูงที่คมชัด แรงปะทะดี ทิศทางเสียงค่อนข้างแม่นยำ ครบทุกอรรถรสการรับฟัง มาในราคาเพียง 1,190 บาทเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่เปลี่ยนจาก Headphone มาลองหูฟังไซส์เล็กดูบ้าง

3.หูฟัง Razer Hammerhead Pro V2

หูฟังเกมมิ่งดีไซน์สวยจากแบรนด์ Razer มาในโทนดำเขียวสวยสะดุดตา มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 10 มิลลิเมตร ให้พลังเสียงทรงพลังจุใจเวทีเสียงกว้างโอบล้อม เหมาะกับเกมแนว MOBA หรือ Open World สร้างบรรยากาศขณะเล่นได้ดี การระบุทิศทางของเสียงเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน จึงจะนำมาเล่นเกม FPS ก็ยังลงตัว ส่วนในเลือกของการดูหนังฟังเพลงเองก็ถือว่าทำได้ดี ตัวหูฟังใช้วัสดุคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน สายเป็นแบบแบนป้องกันการพัน ภายในแพ็กเกจมีจุกหูฟัง 4 ขนาดมาให้เลือกเปลี่ยน พร้อมเคสและตัวแปลงแจ็คสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ Razer Hammerhead Pro V2 มาในราคา 1,410 บาทเหมาะกับเหล่าเกมเมอร์ที่กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่ง in ear ดีไซน์สวยเสียงดี

4.หูฟัง JBL Quantum 50

มาถึงตัวหูฟังเกมมิ่งสุดคุ้มตัวสุดท้ายจากแบรนด์ JBL ที่โดดเด่นในย่านของเสียงเบสที่มีมวลเยอะทรงพลังฟังสนุก เสียงกลางชัดเจน แหลมไม่บาดหู ฟังได้เป็นเวลานานไม่ล้าหู เวทีเสียงกว้างพอประมาณ แยกตำแหน่งเสียงได้อย่างแม่นยำ จะนำมาเล่นเกมแนวไหนก็เหมาะ แถมยังตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดี ทำให้ได้รับอรรถรสการเล่นเกมแบบเต็มๆ ตัวหูฟังดีไซน์สวยมีให้เลือกถึง 3 สี ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 8.6 มม. แบบไดนามิค ในราคา 1,390 บาท JBL Quantum 50 หูฟังเกมมิ่งเสียงดีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความแน่นของเสียงเบสและความกระชับขณะสวมใส่

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หูฟังเกมมิ่ง In-Ear ที่ทั้งเสียงดีราคาไม่แพงทั้ง 4 ตัว ที่เราเลือกมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักและได้เลือกซื้อกัน โดยทั้ง 4 ตัวนั้นก็เป็นหูฟังเกมมิ่งที่มีจุดเด่นต่างกันไป บ้างตัวเน้นเสียงกลาง เน้นทิศทางเสียง แต่บ้างตัวอาจเน้นไปที่เสียงเบสและดีไซน์ สุดท้ายเราก็อยากให้ทุกคนเลือกหูฟังที่เหมาะกับแนวของตัวเองกันนะครับ จะได้มีความสุขขณะใช้งานกัน และใครอยากลองมองหาหูฟังเกมมิ่งตัวอื่นก็สามารถทำได้เพียง คลิกที่นี่