กรุณารอสักครู่่
ติดต่อสอบถาม โทร.1491 หรือ 02-908-8888
Advice IT Infinite Public Company Limited

เคล็ดลับการเลือกซื้อ Monitor ฉบับด่วนจี๋!! เลือกแบบไหนให้เข้าตา #MonitorBrandWeek

 

                Monitor หรือหน้าจอแสดงผล ไอเทมชิ้นสำคัญที่หลายๆ คนมองข้าม เรียกได้ว่าเป็นหน้าต่างสู่จิตวิญญาณของ PC เลยทีเดียว!! ซึ่งในปัจจุบันเองมีหน้าจอให้เลือกมากมาย แต่ละชนิดก็จะมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เลือกถูกก็ดีไป แต่ถ้าเลือกผิดชีวิตเปลี่ยนแน่นอน!! วันนี้แอดมิน AdviceClub ขอเสนอ เคล็ดลับการเลือกซื้อ Monitor ฉบับด่วนจี๋!! เลือกแบบไหนให้เข้าตา บทความพิเศษต้อนรับโปรโมขั่น Monitor Brand Week #แบรนด์ไหนแอดไวซ์ก็ลด กับสินค้า Monitor ที่ยกขบวนมาลดเน้นๆ ทุกแบรนด์ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. - 4 ต.ค. เท่านั้น!! จะเป็นยังไงไปดูกันเลยจ้าาาา

 

สำหรับการเลือกซื้อ Monitor ฉบับด่วนจี๋!! มี 5 ข้อน่ารู้กับอีก 2 ข้อ ควรทำ ดังนีั

 

 

1.Resolution ความละเอียดสูงย่อมได้ภาพที่ดีกว่า
Resolution หรือความละเอียดของหน้าจอ สิ่งสำคัญประการแรกของการเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ ความละเอียดหน้าจอมักจะมีหน่วยเป็น pixel ยิ่ง pixel ในแต่ละตารางนิ้วมีมากเท่าไหร่ภาพก็จะยิ่งสมจริงและลื่นไหลมากขึ้นเท่านั้น ความละเอียดบางอย่างมีหลายชื่อ ด้านล่างนี้คือชื่อเรียกความละเอียดของจอภาพโดยทั่วไป ตั้งแต่ดีที่สุด (จำนวน pixel สูงสุด) ไปจนถึงแย่ที่สุด (จำนวน pixel น้อยสุด)

 

8K 7680 x 4320
5K 
5120 x 2880
4K 
3840 x 2160 
4096 x 2160 
Ultra HD (UHD)
3840 x 2160
Quad HD (QHD) หรือ Wide Quad HD (WQHD) 
2560 x 1440
2K หรือ 1440p 
2560 x 1440 
2048 x 1080 
WUXGA 
1920 x 1200
Full HD (FHD) หรือ 1080p 
1920 x 1080

 

 

2.Refesh Rate คืออะไรทำไมต้องซีเรียส?
Refesh Rate คือ จำนวนครั้งที่จอภาพของคุณอัปเดตข้อมูลใหม่ต่อวินาที มีหน่วยวัดเป็น เฮิรตซ์ (Hz) ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ก็จะได้ภาพที่ลื่นไหลยิ่งกว่าไลปอนเอฟ เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเล่นเกมที่มีการเปลี่ยนฉากรวมเร็ว หรือต้องการความเร็วในการเล่น เรียกได้ว่า Refesh Rate มีผลชี้เป็นชี้ตายได้เลยแหละในหมู่เกมเมอร์ระดับอาชีพ โดยหน้าจอที่เหมาะกับการเล่นเกมเริ่มที่ 75Hz ขึ้นไป

 

3.Response times ยิ่งต่ำยิ่งดี!!
Response Time คือ ความเร็วในการตอบสนองของเม็ด pixel เมื่อเปลี่ยนจากสีหนึ่งไปอีกสีหนึ่ง ซึ่งปกติจะวัดโดยการเปลี่ยนสีดำมาเป็นสีขาว แล้วก็เปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นสีดำอีกครั้งนึง มีหน่วยเป็น ms (millisecond) มิลลิวินาที ยกตัวอย่างเช่น Monitor ที่ในสเปคเขียนว่า Response Time 4 ms นั้นหมายความว่าความเร็วในการเปลี่ยนเม็ด pixel ของรุ่นนี้อยู่ที่ 4 มิลลิวินาที (0.004 วินาที) ยื่งตัวเลขดังกล่าวต่ำก็จะทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของวัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วได้ไหลลื่น คมชัด ยิ่งขึ้น

 

 

4.Panel มีกี่ประเภท เลือกยังไงให้ตรงการใช้งาน TN vs. VA vs. IPS
ปัจุบันมีเทคโนโลยีหลักๆ 3 ชนิดที่ใช้ในจอ Monitor ได้แก่ TN (Twisted nematic), VA (vertical alignment) และ IPS (in-plane switching) แต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันตามตารางด้านล่างเลยจ้า
 
 
TN
VA
IPS
การตอบสนอง                  
Response time ต่ำ ตอบ สนองเร็ว, ค่า Refresh Rate สูง
Response time สูงที่สุด, การตอบสนองช้า
Response time อยูระหว่าง TN และ VA 
การแสดงผล
มุมมองแคบ,ค่าสีแย่ที่สุด
มุมมองอยู่ระดับกลางระหว่าง TN และ IPS, ค่า Contrast ratios สูง ทำให้ได้ภาพคมชัด
มุมมองกว้าง,ค่าสีตรง สวย
ราคา
ต่ำ
กลาง 
สูง
เหมาะสำหรับ
เล่นเกม 
ดูหนัง ใช้งานทั่วไป
งานออกแบบกราฟิก, แต่งภาพ


สรุปแว๊!!

TN (Twisted nematic)  : 
ข้อดี : มีค่า Response Time ต่ำ ค่ารีเฟรชเรทสูง ราคาค่อนข้างถูก
ข้อจำกัด : มุมมองแคบ สีเพี้ยน
เหมาะสำหรับ : สายเกมมิ่ง จริงจังเกมเมอร์ที่ต้องการความเร็วในการตอบสนอง และไม่ซีเรียสเรื่องสี 

IPS (In-plane switching) :
ข้อดี :
 มุมมองกว้าง สีสวย สีเพี้ยนน้อย
ข้อจำกัด : ราคาสูงกว่า เมื่อเทียบกับจอพาแนลอื่นที่มีสเปคใกล้เคียงกัน
เหมาะสำหรับ : สายกราฟิก งานออกแบบกราฟิก, แต่งภาพ เน้นสีสวยสมจริง

VA (Vertical alignment) :
ข้อดี :
 พาเนลที่มีค่า Contrast ratios สูงที่สุดทำให้ภาพออกมาคมชัดที่สุด
ข้อจำกัด : มีค่า Response Time สูง
เหมาะสำหรับ : สายบันเทิง ดูหนังเน้นความคมชัด และใช้งานทั่วไป

 

 

5.เทคโนโลยีสารพัด Sync
"เบื่อมั้ยกับการแลค ภาพฉีกขาด เล่นเกมอะไรก็ไม่สนุก" ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปแค่มีเทคโนโลยี Sync เทคโนโลยีที่จะช่วยลดการฉีกขาดและการเลื่อนล้ำของภาพ (Screen Tearing)  ซึ่งเกิดจากการที่ ค่า FPS ที่ประมวลผลจากการ์ดจอ ไม่สัมพันธ์กับค่า Refesh Rate ของ Monitor อธิบายง่ายๆ เทคโนโลยีเหล่านี้จะทำการ Sync การทำงานระหว่างการ์ดจอและหน้าจอของเราให้สัมพันธ์กันนั้นเองมีอะไรบ้างไปดูกันนน
 V-Sync : เทคโนโลยีเบสิคที่มีให้เลือกปรับในเกมทั่วไปกันอยู่แล้ว ทำงานโดยการล็อค FPS และ Refresh Rate ให้เท่ากัน ตัดปัญหาการ Tearing ไป แต่ผลที่ตามมาก็คือเกิด Respone time ที่มากจนเกินไป สรุปคือแก้ปัญหาการ Tearing แต่ในหลายๆครั้งดันเพิ่มปัญหาการ Lag มาซะงั้น นี้คือเหตุผลว่าทำไมแอดมินและหลายๆคนเลือกที่จะปิด V-Sync
Adaptive-Sync :  การ Sync ขั้นเบสิคโดยการทำให้ค่า Refresh Rate ของจอตรงกับค่า FPS ที่ได้จาก การ์ดจอ
Free-Sync : เทคโนโลยีจากค่ายแดง AMD โดยทำการปรับให้ตัวค่า Refresh Rate ของหน้าจอเข้ากับตัวการ์ดจอ ทำให้การแสดงผลออกมาตรง และตัดปัญหาเรื่องการ Lag ใน V-Sync ออกไป เท่ากับว่าหากใช้ Free-Sync นั้นเราจะเล่นเกมได้โดยที่ไม่เกิดการเลื่อมล้ำของภาพและมีค่า Respone Time ที่ต่ำตามสเปคของหน้าจอ 
G-Sync : อันนี้เป็นเทคโนโลยีของทางด้าน Nvidia แทน ผลที่ได้เมื่อใช้เทคโนโลยีนี้ก็คือ ตัดปัญหา Tearing ออก และได้ค่า Respone Time ที่ตรงตามจอ Monitor นอกจากนั้น Nvidia ยังมี Sync อีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า Fast Sync ติดมาในการ์ดจอของทาง Nvidia เลยที่จะทำงานเมื่อค่า FPS ทะลุเกินค่า Refresh Rate ของจอนั้นเอง

 

6.เลือกดีไซน์ที่เป็นตัวเอง!!
สิ่งหนี่งที่สำคัญไม่แพ้การดูสเปคคงหนีไม้พ้นเรื่องดีไซน์ ที่ในปัจจุบันแต่ละแบรนด์หันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้นแต่ละแบรนด์ก็จะมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง สุดท้ายแล้วแอดแนะนำเลยว่าถ้าดีไซน์ใช่อะไรก็ใช่ไปหมด <3

 

7."นึกถึงไอที นึกถึงแอดไวซ์" จำหน่ายและซ่อม ครบ | จบ | ในที่เดียว
 
สามารถเช็คสาขาใกล้บ้าน คลิก