กรุณารอสักครู่่
ติดต่อสอบถาม โทร.1491 หรือ 02-908-8888
Advice IT Infinite Public Company Limited

7 วิธีการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน

          ในปัจจุบันคนเราต่างก็ต้องการความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านทรัพย์สินหรือชีวิต แม้กระทั่งสัตย์เลี้ยงของเราเอง กล้องวงจรปิดจึงเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับตอบโจทย์ในด้านความปลอดภัยดังกล่าว โดยจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนยามคอยเฝ้ามองตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เรานำไปติดไว้ ยิ่งไปกว่านั้นกล้องวงจรปิดเองก็ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะช่วยบอกเราว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไรและมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ฉะนั้นกล้องวงจรปิดที่ดีและมีคุณภาพย่อมยกระดับความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของคุณมากขึ้นไปอีกขั้น ส่วนวิธีการเลือกซื้อกล้องวงจรปิดจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.กล้องวงจรปิดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ เราจะต้องศึกษาว่ากล้องวงจรปิดชนิดนี้ต้องการอุปกรณ์อะไรบ้างในการติดตั้งและใช้งาน

แบบ Analog – กล้องวงจรปิดชนิดนี้ เป็นกล้องวงจรปิดแบบพื้นฐานที่มีขายในท้องตลาดทั่วไป ต้องลากสายไฟและสายสัญญาณภาพจากกล้องเข้าตัวกล่องบันทึกภาพ มีปัญหาน้อย ไม่จุกจิก แต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยทางข้อมูลที่ต่ำ และไม่สามารถส่งสัญญาณภาพระยะไกลได้ บางรุ่นก็ต้องใช้ไฟเลี้ยงตลอดเวลา

แบบ IP – เป็นกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ของยุคสมัยนี้ ติดตั้งได้ง่าย ไม่ต้องลากสายส่งสัญญาณภาพให้ยุ่งยากมากมาย เพียงแค่ต่อสาย LAN หรือเชื่อมต่อ Wifi ในบ้านและเสียบปลั้กเป็นอันเสร็จ แต่ก็จะมีบางรุ่นที่มีแบตเตอรี่ในตัว เพียงแค่ติดตั้งแล้วเชื่อมต่อ Wifi ก็สามารถใช้ได้ทันที ที่สำคัญไม่ต้องใช้กล่องบันทึกภาพ ตัวกล้องวงจรปิดสามารถแสดงภาพได้ทันที โดยจะดูที่ไหนก็ได้หากเราต่ออินเทอร์เน็ตอยู่

2.เลือกประเภทการใช้งานและสถานที่ติดตั้งให้เหมาะสม
กล้องวงจรปิดมีทั้งแบบใช้ในอาคารและนอกอาคารรวมไปถึงสถานที่กลางแจ้ง เราต้องเลือกกล้องวงจรปิดให้เหมาะสมแก่การใช้งาน หากเลือกประเภทไม่ถูกก็จะให้กล้องวงจรปิดทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือในขั้นแย่ที่สุดก็คือกล้องจะพังไปเลย เช่นการนำ IP Camera สำหรับดูสัตว์ในบ้านไปติดนอกบ้านให้โดนฝนโดนแดด โดยที่ตัวกล้องเองก็ไม่ได้มีฟังก์ชันกันน้ำแต่อย่างใด  ฉะนั้นต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและสถานที่ด้วยครับ

3.เลือกกล้องวงจรปิดที่มีฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์
เลือกแค่ความละเอียดของกล้องวจรปิดอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ เราจะต้องเลือกฟังก์ชันการใช้งานที่ติดมากับกล้องด้วย เช่น สามารถมองในที่แสงน้อยหรือไม่มีแสงได้อย่างชัดเจน, สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตอนกลางวันที่มีแสงมากระทบกับเลนส์กล้อง, ระบบแจ้งเตือนผู้บุกรุก, ระบบแจ้งเตือนการเคลื่อนไหวเป็นต้น

4.เลือกความละเอียดและความชัดของกล้องวงจรปิด
ในขั้นตอนนี้ควรจะเลือกความละเอียดให้อย่าต่ำกว่า 1080P ยิ่งความละเอียดสูง ภาพก็จะคมชัดนำไปเป็นหลักฐานได้ดียิ่งขึ้น แม้ราคาจะสูงตามไปด้วย แต่ก็ดีกว่าติดกล้องแล้วเปิดมามองแล้วภาพเบลอมองอะไรไม่ออกแน่นอนครับ

5.ต้องรองรับเทคโนโลยีได้และมีความสามารถอย่างครบครัน
กล้องวงจรปิดของเราต้องรองรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเช่นงาน เช่น เทคโนโลยีการเข้ารหัสภาพและเสียงทำได้ยากแก่การเข้าถึงโดยไม่รับอนุญาติ หรือ สามารถนำกล้องรุ่นเก่ามาใช้กับกล้องรุ่นใหม่ได้ด้วย ในด้านความสามารถเองก็ต้องดูด้วยว่าตัวกล้องวงจรปิดมีการกันน้ำ กันฝุ่นกันความชื้นหรือทดต่อแดดมากแค่ไหน

6.ความจุของข้อมูลต้องเยอะ
ในกล้องวงจรปิดแบบมีสาย เราจะใส่ฮาร์ดดิสในเครื่องบันทึก ยิ่งฮาร์ดดิสจุข้อมูลเยอะกล้องวงจรปิดก็จะบันทึกภาพได้ยาวนานตามที่เราต้องการ แต่ในกล้องวงจรปิดแบบ IP การเก็บข้อมูลจะเป็นแบบ SD Card และจะมีการรองรับจำนวนความจุสูงสุดของ SD Card ต่างกัน ต้องใส่ให้สอดคล้องกับความจุของกล้องด้วย

7.ประกันและบริการหลังการขาย
กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตลอดเวลาโดยไม่หยุดพัก ก็จะมีโอกาสสูงที่จะเสียหายหรือเกิดอาการพังได้ ยิ่งกับกล้องวงจรปิดที่ทำงานภายนอกอาคารสถานที่ การรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายก็จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ หากเกิดปัญหาอะไร ก็มั่นใจได้ว่าทางบริษัทจะเข้ามาแก้ไขให้อย่างเรียบร้อย

          สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิดนั้นต้องคำนึงถึงการใช้งานจริง เลือกชนิดและฟังก์ชั่นที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการติด และที่ขาดไม่ได้อย่าลืมเช็คประกันและบริการหลังการขายกันด้วยเด้อ โดยสามารถเลือกช้อปได้ที่ www.advice.co.th หรือไปลองเลือกด้วยตัวเองได้ที่สาขาทั่วประเทศ เช็คสาขาใกล้บ้าน คลิก