พักก่อน Elon Musk จะหยุดพัฒนา AI เพราะกลัวสร้างปัญหาให้มนุษย์

     นักวิจัยด้าน AI ที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง และ Elon Musk CEO ของ Tesla ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ห้องปฏิบัติการ AI ทั่วโลกหยุดพัฒนาระบบ AI ขนาดใหญ่ชั่วคราว เนื่องจากมีความกังวลว่ามันกำลังจะสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ในอีกไม่นาน

     จดหมายดังกล่าวพิมพ์โดย Future of Life Institute องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร กล่าวว่า ห้องปฏิบัติการ AI ในปัจจุบันนั้น มีการแข่งขันขันกันพัฒนาแบบไม่มีการควบคุมได้ และยังไม่มีใครที่ สามารถเข้าใจ ทำนายได้ หรือให้การควบคุมที่น่าเชื่อถือได้ แม้แต่ผู้สร้างเองก็ตาม” และเราขอเรียกร้องให้ห้องปฏิบัติการ AI ทั้งหมดหยุดชั่วคราวเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนเพื่อฝึกอบรมระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า GPT-4 (เขากำลังบอกว่า ChatGPT4 ไม่ถูกควมคุมนั่นแหละ)

     คนที่เรียกร้องให้หยุด ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ก็คือหนึ่งในคนที่ไม่เห็นด้วยกับพัฒนา AI ที่เร็วเกินไปอยู่แล้วอย่าง Steve Wozniak (ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple) , Jaan Tallinn (ผู้ก่อตั้ง Skype) รวมถึง Elon Musk ครับ

     จริง ๆ พออ่านข่าวนี้ ก็ เอ๊ะ…..! เหมือนกันนะ เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็มีดราม่าว่า ครั้งหนึ่ง Elon เคยยกเลิกทุนสนับสนุน OpenAI (ผู้พัฒนา ChatGPT) เพราะไปขอเป็น CEO ของบริษัทแล้วเค้าไม่ให้ ก็เลยเทซะเลย จากนั้น OpenAI ก็เป๋อยู่ขณะหนึ่ง จนได้ Microsoft เข้ามาสนับสนุนต่อ และทำให้ ChatGPT โด่งดังขึ้นมาได้ แต่จากนั้นไม่นาน ก็มีข่าวว่า Elon กำลังซุ่มทำ AI ของตัวเองอยู่เช่นกัน

     พูดแบบนี้ อาจจะดูให้ร้ายเขาไปซะหน่อยนะ ในความจริงแล้ว การลงนามในจดหมาย ไม่ได้หมายความว่าจะให้โลกหยุดพัฒนา AI ไปเลย เพราะการพัฒนา AI นั้นยังมีประโยชน์อยู่มากมาย เช่น การช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและต้องการความรวดเร็ว การช่วยในการวิเคราะห์ภาพการแพทย์และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นควรมีการพัฒนา AI แต่ควรมีการควบคุม เพื่อลดผลกระทบที่ไม่คาดคิด

     สำหรับ Elon เอง อาจมีความกังวลเกี่ยวกับพัฒนา AI ที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ในอนาคต และเขามีความเชื่ออย่างยิ่งว่ามนุษย์จะต้องพัฒนา AI ต่อไป แต่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อความปลอดภัย และมีแนวคิดที่ดีเพื่อให้ AI ถูกใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับมนุษย์โดยไม่เกิดอันตรายต่อสังคม ซึ่งเขาเรียกว่า “AI ที่มีประโยชน์” (beneficial AI)

     ส่วนตัวผมยังมองว่า Elon เบื้องลึก Elon อาจจะ “พยายาม” ซื้อเวลา เพื่อให้ตัวเองสามารถพัฒนา AI ให้ตามทัน OpenAI ก็เป็นได้ครับ

แหล่งที่มาข้อมูล : theverge