กรุณารอสักครู่่
ติดต่อสอบถาม โทร.1491 หรือ 02-908-8888
Advice IT Infinite Public Company Limited

BIOSTAR เปิดตัว Mainboard สายขุดรุ่นใหม่ TB250-BTC PRO พร้อมช่อง PCI-E 12 Slot

                  กระแสนึงที่มาแรงมากๆช่วงนี้เลยก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการขุด Bitcoin หรือว่า Cryptocurrency อื่นๆ .. และถ้าพูดถึง Mainboard สำหรับการนี้ แน่นอนว่า BIOSTAR ต้องเป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆที่มีคนนึกถึงเพราะว่าก่อนหน้านี้มี Mainboard ที่ออกแบบมาสำหรับการขุด Bitcoin อย่าง TB250-BTC กันไปแล้ว เริ่มตั้งแต่ชื่อรุ่นเลยที่ลงท้ายด้วย BTC ที่เป็นตัวอักษรย่อของสกุลเงิน Bitcoin ... บอร์ดตัวนั้นก็เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่มี PCI มาให้แบบเต็มเปี่ยม จนกระทั่งผู้ใช้งานเอาไปใส่การ์ดจอขุดเหมืองได้ 6 ตัวอย่างสบายๆ จนกระทั่งพูดถึงชื่อบอร์ดรุ่นนี้มาเมื่อไหร่ สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของคนที่จะซื้อก็คือ "ของหมดแน่เลย" และมันก็แทบจะเป็นอย่างนั้นจริงตลอดครับ เพราะมีเท่าไหร่ เอามาเยอะแค่ไหน ก็มีคนต่อคิวกันเหมาหมด !

ตอนนี้ทาง BIOSTAR ก็เปิดตัว Mainboard เพิ่มเติมอีกหนึ่งรุ่นครับ โดยจะใช้ชื่อรุ่นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคำว่า PRO เข้ามา เป็น TB250-BTC PRO และแน่นอนว่าเป็นรุ่นใหม่ก็ต้องไฉไลกว่าเดิม จุดแรกที่โปรโมทเลยก็คือช่อง PCI-E Slot แบบ Native ที่ให้มาสูงสุด 12 ช่อง จากที่ Mainboard ทั่วๆไปในตลาดนั้นจะมีช่องเหลานี้มาให้ทั้งหมด 6 ช่องโดยเฉลี่ย .. แต่บอร์ดตัวนี้ให้มากกกว่ากันเท่าตัวเลย ! / หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่าทำไมถึงต้องมีช่องเยอะขนาดนี้ ก็ประกอบหลายๆ Rig ไปไม่ง่ายกว่าเหรอ ? .. ลองคำนวนจุดคืนทุนกันดูครับ ถ้าสมมุติประกอบสอง Rig ก็ต้องซื้อ CPU สองตัว ซื้อ RAM สองชุด ซื้อ SSD สองชุด .. ถ้าประกอบชุดเดียว Rig เดียวได้การ์ดจอเยอะกว่า ก็คุ้มกว่าที่จะต้องมาซื้ออุปกรณ์อื่นๆสองรอบอย่างแน่นอนครับ 

การจัดเรียงของช่อง PCI-E ก็จะจัดมาแบบ Matrix Layout เป็นระเบียบ ให้ผู้ใช้งานนั้่นเสียบ Riser และติดตั้งได้โดยง่าย โดยจะแบ่งเป็นช่องขนาด x16 เหมือนช่องมาตรฐานการ์ดจอทั่วๆไปหนึ่งช่อง และอีก 11 ช่องที่เหลือจะเป็นขนาด x1 สำหรับต่อ Riser Card ขึ้นไว้ด้านบนของตัว Rig (เห็นภาพแล้วน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก) / ทางด้านการออกแบบแล้ว บอร์ดตัวนี้ก็จะมาตามแบบฉบับของ Pro Series รุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์คุณภาพสูง พวก Capacitors หรือตัวเก็บประจุที่เป็น Solid Cap ทั้งหมด

สำหรับ I/O Port หรือว่า Input Output ด้านหลังก็ออกแบบมาสำหรับการทำงานตรงนี้โดยเฉพาะ โดยจะมี PS/2 Port รองรับการทำงานทั้งเม้าส์และคีย์บอร์ดสำหรับการใช้งาน KVM ที่ผู้มีหลาย Rig นั้นอาจจะต้องได้ใช้กัน / มี Video Out เป็น DVI มาให้หนึ่งช่อง และก็ USB 2.0 / USB 3.0 อีกมากมาย เพียงพอสำหรับการใช้งานแน่นอน

บอร์ดรุ่นนี้ก็นับว่าเป็นบอร์ดที่มีฟีเจอร์เอื้ออำนวยสำหรับสายขุดอย่างแท้จริง ประมาณว่าเน้นเรื่องความทนทานและจำนวนช่อง PCI-E เยอะเป็นหลัก ฟีเจอร์ Gaming อะไรต่างๆก็ไม่ได้มีมาให้เลย .. แต่ถ้าอยากมองฟีเจอร์ Gaming จากแบรนด์นี้แนะนำว่าไปดูตระกูล Racing ดีกว่าครับ / สุดท้ายแล้ว บอร์ดตัวนี้จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไหร่ หรือจะมีราคาวางจำหน่ายเท่าไหร่ ก็ต้องรอดูกันอีกทีนะครับ แต่ราคาเปิดตัวเป็นดอลล่าร์ก็จะอยู่ที่ $129.99 หรือราวๆสี่พันกว่าบาท

ขอขอบคุณแหล่งที่มา: https://www.overclockzone.com